วิเคราะห์ Club Asteria
หากกล่าวคำว่า "ธุรกิจ" ภาพที่คนส่วนใหญ่มองและเข้าใจได้ คือ profit หรือ ผลกำไร แต่ในยุคโลกาภิวัฒน์และโลกยุคใหม่ในปัจจุบัน ( ยุค digital ) ภาพของธุรกิจมีความเปลี่ยนแปลงไปตามยุคตามสมัยไม่น้อย โดยเฉพาะการลดความสำคัญของ "ผลกำไร" ไปสู่ "ความรับผิดชอบต่อสังคม" มากขึ้น โดยมีสาเหตุสำคัญ คือ ความจำกัดของทรัพยากรที่ลดน้อยลง และความเปลี่ยนแปลงของสังคม
นอกจากนี้รูปแบบหรือลักษณะของธุรกิจก็เริ่มเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนไปจากเดิมที่มุ่งเน้น "การผลิต" และ "การบริโภค" โดยที่ผู้ผลิตหรือพ่อค้าคนกลางไม่มีส่วนสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องในเชิงธุรกิจกันเลยไปสู่ "กระบวนการพึ่งพาอาศัยกัน" ทั้งผู้ผลิต พ่อค้าคนกลาง และผู้บริโภค มีส่วนร่วมในกระบวนการในเชิงความสัมพันธ์กันมากขึ้น ผมจึงขอเรียกความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวข้องนี้ว่า "กระบวนการธุรกิจร่วมกัน"หรือ "ธุรกิจการมีส่วนร่วม"
องค์กรที่มีรูปแบบและลักษณะคล้ายกับระบบ "ธุรกิจการมีส่วนร่วม" ที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน คือ "สหกรณ์"
เมื่อวิเคราะห์รูปแบบหรือลักษณะในการดำเนินธุรกิจของคลับแอสเทอเรียแล้วมีส่วนคล้ายกับสหกรณ์มาก เพราะเป็นธุรกิจที่อาศัยการพึ่งพากันระหว่างสมาชิกและองค์กร โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของสมาชิกทุกคน ซึ่งต่างจากธุรกิจทั่วไปที่อาศัยผู้บริโภคทั่วไปและมีเป้าหมายคือผลกำไรให้กับองค์กรเป็นสำคัญ
มีคนจำนวนไม่น้อยแสดงความคิดเห็นและบางท่านโจมตีว่าคลับแอสเทอเรียเป็น "แชร์ลูกโซ่"หรือ "มันนี่เกม" (Money game ) แต่ผมเห็นว่าไม่เป็นทั้งสองอย่าง เพราะรูปแบบหรือลักษณะแชร์ลูกโซ่หรือมันนี่เกมรายได้คนก่อน ( อัพไลน์ ) ต้องไม่มีจำกัดสูงสุดและกินไม่จำกัดชั้นลึก แต่คลับแอสเทอเรียจำกัดรายได้ของอัพไลน์ ส่วนรายได้ของ ND ( ND1-ND 5 ) นั้นเป็นเพียงรายได้จากตำแหน่งคล้ายธุรกิจ MLM ซึ่งมีข้อจำกัดของรายได้ของตำแหน่งอยู่มากและที่สำคัญแชร์ลูกโซ่หรือมันนี่เกมไม่มี (หากมีก็เป็นเพียงฉากบังหน้า) กิจกรรมทางธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจากรายได้ของสมาชิกเลย
การดำเนินธุรกิจในยุคเดิมและยุคใหม่ และไม่ว่าธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ย่อมต้องอาศัยองค์ประกอบหรือปัจจัยหลายอย่างในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสงบความสำเร็จหรือว่าล้มเหลว ในที่นี้ผมจะขอยกเฉพาะที่สำคัญ ๆ ดังนี้
1. ผู้บริหารองค์กร โดยพิจารณาจากประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ ชื่อเสียง ความซื่อสัตย์ และวิสัยทัศน์
2. การบริหารจัดการ โดยพิจารณาประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการขับเคลื่อนองค์กร ในยุคใหม่การบริหารองค์กรจะต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกาภิวัฒน์ และคงไม่มีใครปฏิเสธว่าการขับเคลื่อนขององค์กรทางธุรกิจยคใหม่ที่ทรงพลังมาก คือ การสื่อสารเครื่อข่าย เช่น อินเตอร์เน็ต เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการ
วิเคราะห์คลับแอสเทอเรียบนข้อเท็จจริงทั้งรูปแบบหรือลักษณะขององค์กร ( ธุรกิจการมีส่วนร่วม (สหกรณ์)) ผู้บริหาร ( มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ มีชื่อเสียง มีวิสัยทัศน์ ) และการบริหารจัดการ ( การสื่อสารเครื่อข่าย เช่น อินเตอร์เน็ต ) เป็นเครื่องบ่งชี้ได้ถึงความั่งคงและความยั่งยืน
วิเคราะห์ความเสี่ยงคลับแอสเทอเรีย
ความเสี่ยงของคลับแอสเทอเรียที่ผมและสมาชิกส่วนใหญ่กังวลนอกเหนือจากความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร คือ ความเสียงที่เกิดจากปัจจัยสำคัญ ๆ คือ
1. ไม่มีสมาชิกเพิ่ม
2. เมื่อมีสมาชิกเกษียณจำนวนมาก ทำให้คลับไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายให้สมาชิก
ในทัศนะหรือความเห็นส่วนตัวผมอยากให้สมาชิกลองพิจารณาตามที่ผมได้วิเคราะห์พื้นฐานคลับแอสเทอเรียข้างต้น และผมขอตั้งคำถามสมาชิกทุกท่าน ดังนี้.
1. ประชากรในโลกเกือบ 7,000 ล้านคน ธุรกิจยุคใหม่และเป็นธุรกิจในอนาคต ( ยุค digital ) เช่น คลับแอสเทอเรีย ที่ยังมีโอกาสขยายและเติบโตอีกมาก ปัจจุบันสมาชิกคลับมีอยู่เท่าใด ? และยังจะเพิ่มขึ้นในอนาคต 2-5 ปีได้อีกหรือไม่ ?
2. ปัจจุบันคลับจ่ายอัตราเฉลี่ย 7% หากในอนาคตมีสมาชิกเกษียณจำนวนมากและคลับจ่ายลดลงเป็น 5%, 3%, 2%, 1% และมีเงินพอจ่ายให้สมาชิกทุกคนในระยะยาว ท่านรับได้หรือไม่ ?
3. การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง กรณีที่ท่านสมัครเป็นสมาชิกประเภท Gold ไม่มีดาวน์ไลน์และไม่ได้ซื้อคะแนนเพิ่มเลย ท่านจะยอมรับความเสี่ยงกับเงินประมาณ 3,000 บาท ได้หรือไม่ ?
ผมหวังว่าบทวิเคราะห์นี้คงจะเป็นประโยชน์กับสมาชิกและผู้ที่กำลังสนใจในคลับแอสเทอเรียบ้างตามสมควร
นอกจากนี้รูปแบบหรือลักษณะของธุรกิจก็เริ่มเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนไปจากเดิมที่มุ่งเน้น "การผลิต" และ "การบริโภค" โดยที่ผู้ผลิตหรือพ่อค้าคนกลางไม่มีส่วนสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องในเชิงธุรกิจกันเลยไปสู่ "กระบวนการพึ่งพาอาศัยกัน" ทั้งผู้ผลิต พ่อค้าคนกลาง และผู้บริโภค มีส่วนร่วมในกระบวนการในเชิงความสัมพันธ์กันมากขึ้น ผมจึงขอเรียกความสัมพันธ์หรือความเกี่ยวข้องนี้ว่า "กระบวนการธุรกิจร่วมกัน"หรือ "ธุรกิจการมีส่วนร่วม"
องค์กรที่มีรูปแบบและลักษณะคล้ายกับระบบ "ธุรกิจการมีส่วนร่วม" ที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน คือ "สหกรณ์"
เมื่อวิเคราะห์รูปแบบหรือลักษณะในการดำเนินธุรกิจของคลับแอสเทอเรียแล้วมีส่วนคล้ายกับสหกรณ์มาก เพราะเป็นธุรกิจที่อาศัยการพึ่งพากันระหว่างสมาชิกและองค์กร โดยมีเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของสมาชิกทุกคน ซึ่งต่างจากธุรกิจทั่วไปที่อาศัยผู้บริโภคทั่วไปและมีเป้าหมายคือผลกำไรให้กับองค์กรเป็นสำคัญ
มีคนจำนวนไม่น้อยแสดงความคิดเห็นและบางท่านโจมตีว่าคลับแอสเทอเรียเป็น "แชร์ลูกโซ่"หรือ "มันนี่เกม" (Money game ) แต่ผมเห็นว่าไม่เป็นทั้งสองอย่าง เพราะรูปแบบหรือลักษณะแชร์ลูกโซ่หรือมันนี่เกมรายได้คนก่อน ( อัพไลน์ ) ต้องไม่มีจำกัดสูงสุดและกินไม่จำกัดชั้นลึก แต่คลับแอสเทอเรียจำกัดรายได้ของอัพไลน์ ส่วนรายได้ของ ND ( ND1-ND 5 ) นั้นเป็นเพียงรายได้จากตำแหน่งคล้ายธุรกิจ MLM ซึ่งมีข้อจำกัดของรายได้ของตำแหน่งอยู่มากและที่สำคัญแชร์ลูกโซ่หรือมันนี่เกมไม่มี (หากมีก็เป็นเพียงฉากบังหน้า) กิจกรรมทางธุรกิจอื่น ๆ นอกเหนือจากรายได้ของสมาชิกเลย
การดำเนินธุรกิจในยุคเดิมและยุคใหม่ และไม่ว่าธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ย่อมต้องอาศัยองค์ประกอบหรือปัจจัยหลายอย่างในการขับเคลื่อนองค์กรให้ประสงบความสำเร็จหรือว่าล้มเหลว ในที่นี้ผมจะขอยกเฉพาะที่สำคัญ ๆ ดังนี้
1. ผู้บริหารองค์กร โดยพิจารณาจากประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ ชื่อเสียง ความซื่อสัตย์ และวิสัยทัศน์
2. การบริหารจัดการ โดยพิจารณาประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการขับเคลื่อนองค์กร ในยุคใหม่การบริหารองค์กรจะต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกาภิวัฒน์ และคงไม่มีใครปฏิเสธว่าการขับเคลื่อนขององค์กรทางธุรกิจยคใหม่ที่ทรงพลังมาก คือ การสื่อสารเครื่อข่าย เช่น อินเตอร์เน็ต เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการ
วิเคราะห์คลับแอสเทอเรียบนข้อเท็จจริงทั้งรูปแบบหรือลักษณะขององค์กร ( ธุรกิจการมีส่วนร่วม (สหกรณ์)) ผู้บริหาร ( มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ มีชื่อเสียง มีวิสัยทัศน์ ) และการบริหารจัดการ ( การสื่อสารเครื่อข่าย เช่น อินเตอร์เน็ต ) เป็นเครื่องบ่งชี้ได้ถึงความั่งคงและความยั่งยืน
วิเคราะห์ความเสี่ยงคลับแอสเทอเรีย
ความเสี่ยงของคลับแอสเทอเรียที่ผมและสมาชิกส่วนใหญ่กังวลนอกเหนือจากความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร คือ ความเสียงที่เกิดจากปัจจัยสำคัญ ๆ คือ
1. ไม่มีสมาชิกเพิ่ม
2. เมื่อมีสมาชิกเกษียณจำนวนมาก ทำให้คลับไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายให้สมาชิก
ในทัศนะหรือความเห็นส่วนตัวผมอยากให้สมาชิกลองพิจารณาตามที่ผมได้วิเคราะห์พื้นฐานคลับแอสเทอเรียข้างต้น และผมขอตั้งคำถามสมาชิกทุกท่าน ดังนี้.
1. ประชากรในโลกเกือบ 7,000 ล้านคน ธุรกิจยุคใหม่และเป็นธุรกิจในอนาคต ( ยุค digital ) เช่น คลับแอสเทอเรีย ที่ยังมีโอกาสขยายและเติบโตอีกมาก ปัจจุบันสมาชิกคลับมีอยู่เท่าใด ? และยังจะเพิ่มขึ้นในอนาคต 2-5 ปีได้อีกหรือไม่ ?
2. ปัจจุบันคลับจ่ายอัตราเฉลี่ย 7% หากในอนาคตมีสมาชิกเกษียณจำนวนมากและคลับจ่ายลดลงเป็น 5%, 3%, 2%, 1% และมีเงินพอจ่ายให้สมาชิกทุกคนในระยะยาว ท่านรับได้หรือไม่ ?
3. การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง กรณีที่ท่านสมัครเป็นสมาชิกประเภท Gold ไม่มีดาวน์ไลน์และไม่ได้ซื้อคะแนนเพิ่มเลย ท่านจะยอมรับความเสี่ยงกับเงินประมาณ 3,000 บาท ได้หรือไม่ ?
ผมหวังว่าบทวิเคราะห์นี้คงจะเป็นประโยชน์กับสมาชิกและผู้ที่กำลังสนใจในคลับแอสเทอเรียบ้างตามสมควร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น